ดูเหมือนว่านโยบาย “Made in America” กำลังจะปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นบนผลิตภัณฑ์ของ Apple เมื่อล่าสุดบริษัทได้ประกาศการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์: กระจกทุกชิ้น “Made in Kentucky”
Apple ได้ประกาศทุ่มงบลงทุนก้อนใหม่มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.25 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายความร่วมมือกับ Corning ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ผลิตกระจกที่ทำงานร่วมกันมายาวนานตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก
การลงทุนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับและขยายโรงงานของ Corning ในเมือง แฮร์รอดส์เบิร์ก รัฐเคนทักกี ให้กลายเป็นฐานการผลิตกระจกหน้าจอ (Cover Glass) เช่น Ceramic Shield สำหรับ iPhone และ Apple Watch ทุกเครื่องที่วางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าเป็นครั้งแรกที่กระจกหน้าจอของผลิตภัณฑ์หลักเหล่านี้จะถูกผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 100%
ทำไมต้องย้ายกลับสหรัฐฯ?
การตัดสินใจครั้งใหญ่ของ Apple ในครั้งนี้มีแรงผลักดันมาจากหลายปัจจัยสำคัญ:
- ลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์: เป็นการเดินตามกลยุทธ์ “China Plus One” เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและไต้หวัน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น
- แรงกดดันและแรงจูงใจทางการเมือง: การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ และยังช่วยให้ Apple เข้าเงื่อนไขการ “ยกเว้น” จากนโยบายกำแพงภาษีชิป 100% ที่เพิ่งประกาศไปก่อนหน้านี้
- ส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนครั้งใหญ่: การลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “American Manufacturing Program (AMP)” และแผนการลงทุนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมของ Apple ที่มีมูลค่าสูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
- การจ้างงาน: การขยายโรงงานครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งวิศวกรและการผลิตของ Corning ในรัฐเคนทักกีได้ถึง 50%
- นวัตกรรม: จะมีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม “Apple-Corning Innovation Center” แห่งใหม่ขึ้น เพื่อวิจัยและพัฒนาวัสดุและเทคนิคการผลิตกระจกสำหรับอุปกรณ์ในอนาคตโดยเฉพาะ
- ผู้บริโภค: นายทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอของ Apple กล่าวว่า “นับจากนี้ไป ลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกที่ซื้อ iPhone หรือ Apple Watch เครื่องใหม่ จะได้ถืออุปกรณ์ที่ใช้กระจกซึ่งผลิตขึ้นอย่างแม่นยำที่นี่ ในรัฐเคนทักกี”
แม้ว่าการประกอบตัวเครื่อง iPhone ส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ในเอเชีย แต่การย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญอย่างกระจกกลับมายังสหรัฐฯ ถือเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับ Apple ในอนาคต
