เปิดใจอัจฉริยะ AI ผู้ปฏิเสธเงินมหาศาลจาก Mark Zuckerberg

ท่ามกลางสงครามแย่งชิงบุคลากรด้าน AI ที่ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์ มีเรื่องราวของสองอัจฉริยะผู้สร้างแรงสั่นสะเทือน ด้วยการปฏิเสธข้อเสนอมูลค่ามหาศาลจาก Mark Zuckerberg แห่ง Meta โดยคนล่าสุดคือ Andrew Tulloch ที่ปฏิเสธแพ็กเกจมูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเดินตามวิสัยทัศน์ของตนเอง

2 Min Read

🔥 Hot Seal: ดีลเด็ด! สินค้าไอทีลดราคาที่คุณไม่ควรพลาด คลิ๊ก

ในโลกที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อดึงตัวเหล่าหัวกะทิด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) การตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา และนี่คือเรื่องราวของสองบุคคลสำคัญที่เลือก “วิสัยทัศน์” มากกว่า “มูลค่า”

กรณีล่าสุด: Andrew Tulloch กับดีล 1.5 พันล้านดอลลาร์

เรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในช่วงกลางปี 2025 คือกรณีของ นายแอนดรูว์ ทัลลอค (Andrew Tulloch) นักวิจัย AI ชาวออสเตรเลีย อดีตวิศวกรคนสำคัญของ Meta และ OpenAI

  • ใครคือ Andrew Tulloch?: เขาคือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “Thinking Machines Lab” สตาร์ตอัป AI น้องใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งเขาก่อตั้งร่วมกับ นางมิรา มูราติ (Mira Murati) อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ OpenAI
  • ข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ: หลังจากที่ Mark Zuckerberg พยายามจะเข้าซื้อ Thinking Machines Lab แต่ถูกปฏิเสธ เขาก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการ “ล่าตัว” บุคลากรแทน โดยมีเป้าหมายหลักคือ Andrew Tulloch ซึ่งมีรายงานว่า Meta ได้ยื่นข้อเสนอเป็นแพ็กเกจค่าตอบแทนและหุ้น รวมมูลค่าสูงสุดถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 6 ปี
  • คำตอบคือ “ไม่”: ทัลลอคได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ พนักงานคนอื่นๆ ของ Thinking Machines Lab ที่ถูกทาบทามด้วยข้อเสนอจำนวนมหาศาล ก็ไม่มีใครลาออกไปร่วมกับ Meta เลยแม้แต่คนเดียว

เหตุผลสำคัญของการปฏิเสธคือ ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของมิรา มูราติ และความต้องการที่จะสร้าง AI ที่ปลอดภัยและเป็นอิสระจากโครงสร้างของบริษัทขนาดใหญ่

ย้อนรอยประวัติศาสตร์: Demis Hassabis ผู้เลือก Google

เรื่องราวของ Andrew Tulloch ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์วงการ AI ในปี 2014 เมื่อ นายเดมิส ฮัสซาบิส (Demis Hassabis) ผู้ร่วมก่อตั้ง DeepMind และเจ้าของรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ

  • สงครามแย่งชิง DeepMind: ในตอนนั้น DeepMind คือบริษัทวิจัย AI ที่ร้อนแรงที่สุด และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับสองยักษ์ใหญ่ คือ Google และ Facebook (Meta ในปัจจุบัน)
  • ทำไมถึงเลือก Google?: มีรายงานว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ฮัสซาบิสและทีมเลือกที่จะถูกซื้อโดย Google (ด้วยมูลค่าราว 400 ล้านปอนด์) แทนที่จะเป็น Facebook คือ ความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมของ AI
  • วิสัยทัศน์ระยะยาว: ทีม DeepMind รู้สึกว่า Google มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาวมากกว่า และให้คำมั่นสัญญาที่จะจัดตั้ง “คณะกรรมการด้านจริยธรรม AI” เพื่อกำกับดูแลการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งตรงกับเป้าหมายของพวกเขาในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) อย่างมีความรับผิดชอบ

เหตุผลที่ “เงิน” ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

เรื่องราวของทั้งสองคนสะท้อนให้เห็นว่า ในกลุ่มบุคลากรระดับมันสมองของวงการ AI ปัจจัยที่สำคัญกว่าแค่ตัวเงินคือ:

  • วิสัยทัศน์และภารกิจ (Vision & Mission): ความเชื่อมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร เช่น การสร้าง AI ที่ปลอดภัยเพื่อมวลมนุษยชาติ
  • ความเป็นอิสระ (Independence): อิสระในการทำงานวิจัยโดยไม่ต้องถูกกดดันจากเป้าหมายทางธุรกิจระยะสั้น
  • วัฒนธรรมองค์กรและความภักดี: ความเชื่อมั่นในตัวผู้นำและเพื่อนร่วมทีม

ในสงครามการแย่งชิงบุคลากร AI ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เรื่องราวเหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า บางครั้ง “วัฒนธรรม” และ “วิสัยทัศน์” ก็เป็นสิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่าเงินมหาศาล

อ้างอิง (References)

Share This Article