เรดมอนด์, วอชิงตัน – ในงานนำเสนอภายในล่าสุด นายเอเบ สไตน์ (Abe Stein) หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของ Microsoft ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ระยะยาวที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับอนาคตของระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเป็นการมองไปไกลกว่าฟีเจอร์ Copilot ที่เราเห็นในปัจจุบัน โดยมีแนวคิดหลักคือการเปลี่ยน Windows ให้กลายเป็น “Agentic AI Operating System” ภายในปี 2030
Agentic AI คืออะไร? ไม่ใช่แค่ “ผู้ช่วย” แต่คือ “ผู้ทำแทน”
แนวคิดของ “Agentic AI” คือการยกระดับ AI จากที่เป็นเพียง “ผู้ช่วย” (Assistant) ที่รอรับคำสั่งทีละขั้นตอน ไปสู่การเป็น “เอเจนต์” (Agent) หรือ “ตัวแทน” ที่มีความสามารถในการ:
- เข้าใจเป้าหมาย: ผู้ใช้เพียงแค่บอกเป้าหมายใหญ่ๆ ที่ต้องการ (เช่น “วางแผนทริปไปญี่ปุ่นให้หน่อย”)
- วางแผนหลายขั้นตอน: AI จะสามารถวางแผนการทำงานที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้หลายแอปพลิเคชันประกอบกันได้เอง (เช่น ค้นหาเที่ยวบิน, เปรียบเทียบราคาโรงแรม, ตรวจสอบตารางงานในปฏิทิน)
- ลงมือทำโดยอัตโนมัติ: AI จะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และนำเสนอผลลัพธ์สุดท้ายให้ผู้ใช้ตัดสินใจ

Windows จะทำงานอย่างไรในอนาคต?
วิสัยทัศน์นี้มองว่า “Shell” หรือหน้าตาของ Windows ที่เราคุ้นเคย (เช่น Desktop, Taskbar, File Explorer) จะถูกขับเคลื่อนโดย AI อย่างสมบูรณ์
- AI คือศูนย์กลาง: แทนที่เราจะต้องคลิกเปิดแต่ละโปรแกรมเอง AI จะกลายเป็นอินเทอร์เฟซหลักที่เราใช้สื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ
- Graph of Intent: Windows จะสร้างสิ่งที่เรียกว่า “กราฟแห่งความตั้งใจ” ของผู้ใช้ขึ้นมาโดยเรียนรู้จากพฤติกรรมการใช้งานทั้งหมด เช่น อีเมล, ปฏิทิน, และไฟล์งาน เพื่อคาดเดาว่าผู้ใช้กำลังต้องการทำอะไรต่อไป
- ตัวอย่าง: หากคุณได้รับอีเมลยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน Windows อาจจะสร้างการแจ้งเตือนขึ้นมาถามโดยอัตโนมัติว่า “ฉันเห็นว่าคุณมีเดินทาง ต้องการให้ฉันจองรถไปสนามบินและโรงแรมที่ใกล้เคียงให้เลยไหม?”
ไม่ใช่เรื่องของวันพรุ่งนี้ แต่คือวิสัยทัศน์ระยะยาว
นายสไตน์ย้ำว่านี่เป็นเพียง วิสัยทัศน์สำหรับปี 2030 และไกลกว่านั้น ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่จะมาใน Windows เวอร์ชันถัดไปในเร็วๆ นี้ การจะไปถึงจุดนั้นได้ยังมีความท้าทายอีกมาก ทั้งในด้านพลังการประมวลผล, ความปลอดภัยของข้อมูล และการสร้างความเชื่อมั่นว่า AI จะสามารถตัดสินใจและทำงานแทนเราได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Microsoft ที่จะทำให้ AI กลายเป็นแกนหลักของระบบปฏิบัติการในอนาคตอย่างแท้จริง



