ChatGPT เอาจริง! ปล่อยฟีเจอร์ใหม่แก้เกมเด็กแอบใช้ AI ทำการบ้าน

OpenAI เดินเกมรุกแก้ปัญหาการลอกการบ้านด้วย AI ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน "ChatGPT Edu" ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการใช้งานอย่างโปร่งใสในห้องเรียน โดยมีไฮไลต์คือฟีเจอร์ "Teammates" ที่ช่วยให้ครูสามารถติดตามกระบวนการทำงานของนักเรียนกับ AI ได้ทุกขั้นตอน

1 Min Read

🔥 Hot Seal: ดีลเด็ด! สินค้าไอทีลดราคาที่คุณไม่ควรพลาด คลิ๊ก

ซานฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย – ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นในแวดวงการศึกษาทั่วโลก เกี่ยวกับการที่นักเรียนและนักศึกษาแอบใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการทำการบ้านและเขียนรายงาน ล่าสุด OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่สำหรับ ChatGPT Edu ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ออกแบบมาเพื่อสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยน AI จาก “เครื่องมือโกง” ให้กลายเป็น “ผู้ช่วยสอนที่โปร่งใส”

เปลี่ยนจาก“ผู้ให้คำตอบ” เป็น “ผู้ช่วยคิด” 

OpenAI ได้เปลี่ยนแนวทางจากการพยายามสร้างเครื่องมือเพื่อ “ตรวจจับ” ข้อความที่เขียนโดย AI ซึ่งยอมรับว่าไม่มีความแม่นยำเพียงพอ มาเป็นการสร้างเครื่องมือที่ส่งเสริม ผู้ช่วยคิดในการใช้งาน” แทน

ฟีเจอร์ใหม่ “Teammates”: ครูเห็นทุกขั้นตอน

หัวใจสำคัญของการอัปเดตครั้งนี้คือฟีเจอร์ “Teammates” ซึ่งเป็นพื้นที่การทำงาน (Workspace) ขนาดเล็กแบบส่วนตัวที่ครูผู้สอนสามารถสร้างขึ้นสำหรับนักเรียนแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มได้

  • การทำงาน: เมื่อนักเรียนได้รับมอบหมายงาน พวกเขาจะทำงานร่วมกับ ChatGPT ภายในพื้นที่ของ “Teammates” ที่กำหนดไว้
  • ความโปร่งใส: ครูผู้สอนจะสามารถเข้าไปดู ประวัติการสนทนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนกับ AI ได้ โดยประวัติการแชตนี้จะไม่สามารถแก้ไขหรือลบได้
  • ประโยชน์สำหรับครู: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ครูสามารถประเมินได้ว่านักเรียนใช้ AI ในลักษณะใด ใช้เพื่อระดมสมอง, ค้นคว้าข้อมูล, ตรวจไวยากรณ์ หรือเพียงแค่คัดลอกคำตอบสุดท้ายไปส่ง ซึ่งจะทำให้การประเมินผลสะท้อนความเข้าใจที่แท้จริงของนักเรียนมากขึ้น
ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงกระบวนการ (Process-Based Learning)
ขอขอบคุณรูปจาก: https://www.techspot.com/

ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงกระบวนการ (Process-Based Learning)

นายปราโมทย์ จันเดอร์ (Pramoth Chandar) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ OpenAI กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการสนับสนุนการเรียนรู้ ไม่ใช่การให้คำตอบสุดท้าย เราต้องการให้ครูสามารถออกแบบการบ้านที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ โดยมี AI เป็นเครื่องมือช่วยขัดเกลาความคิด ไม่ใช่เครื่องมือที่คิดแทน”

นอกจากนี้ ChatGPT Edu ยังได้รับการปรับปรุงให้มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล (Attribution) ที่ดีขึ้น เพื่อสอนให้นักเรียนรู้จักการตรวจสอบและอ้างอิงข้อมูลอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล

การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ OpenAI ในการทำงานร่วมกับภาคการศึกษา เพื่อสร้างแนวปฏิบัติในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ และเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสในการยกระดับการเรียนการสอนแห่งอนาคต

อ้างอิง (References)

Share This Article